หนุ่มสาวถามว่า
ฉันจะรับมืออย่างไรเมื่อเริ่มเข้าสู่วัยรุ่น?
“ช่วงที่เริ่มเข้าสู่วัยรุ่นไม่ใช่เรื่องสนุกเลยสำหรับเด็กผู้หญิง มันทุกข์ทรมาน วุ่นวาย สับสน ไม่ว่าอะไรก็แย่ไปหมด”—ออคซาน่า
“ผมมีความสุขได้แป๊บนึง แล้วก็เศร้า ไม่รู้ว่าเด็กหนุ่ม ๆ เป็นกันอย่างนี้ไหม แต่มันเกิดขึ้นกับผม”—ไบรอัน
ช่วงที่เริ่มเข้าสู่วัยรุ่นหรือที่เรียกว่าวัยแรกรุ่น อาจเป็นเหมือนการนั่งรถไฟเหาะที่ทั้งน่าตื่นเต้นและน่ากลัวในเวลาเดียวกัน คุณจะรับมือกับอารมณ์ที่ขึ้น ๆ ลง ๆ ได้อย่างไร?
วัยแรกรุ่นคืออะไร?
วัยแรกรุ่นเป็นช่วงหนึ่งของชีวิตที่คุณจะต้องผ่านเพื่อก้าวเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ ร่างกายและอารมณ์ของคุณจะเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การเปลี่ยนแปลงแบบก้าวกระโดดทั้งทางร่างกายและฮอร์โมนเป็นการเตรียมคุณไว้สำหรับการมีลูกและการคลอดลูก
นี่ไม่ได้หมายความว่า คุณพร้อมจะเป็นพ่อคนแม่คน แต่วัยแรกรุ่นเป็นสัญญาณบอกว่า คุณไม่ได้เป็นเด็กอีกต่อไป คุณอาจตื่นเต้นที่จะได้เป็นผู้ใหญ่ หรือไม่ก็เสียใจที่จะไม่ได้เป็นเด็กอีกแล้ว
ทดสอบ: คุณคิดว่าวัยแรกรุ่นเริ่มที่อายุเท่าไร?
8
9
10
11
12
13
14
15
16
คำตอบ: ทั้งหมดนี้ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติ
นี่หมายความว่า ถ้าคุณอายุ 14-15 แล้ว แต่ยังไม่ได้เริ่มเข้าสู่วัยรุ่น หรือถ้าคุณอายุยังไม่ถึง 10 ขวบก็เริ่มเข้าสู่วัยแรกรุ่นแล้ว คุณก็ไม่ต้องกังวลจนเกินไป แต่ละคนมีช่วงเวลาที่จะเข้าสู่วัยรุ่นแตกต่างกัน คุณควบคุมมันไม่ได้
การเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย
การเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดที่สุดของวัยแรกรุ่นอาจจะเป็นการเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่ปัญหาก็คือ ส่วนต่าง ๆ ของร่างกายไม่ได้เติบโตในอัตราเดียวกัน จึงไม่ต้องแปลกใจถ้าคุณจะทำอะไรซุ่มซ่าม แต่แน่ใจได้ว่าในที่สุดส่วนต่าง ๆ ของร่างกายจะออกมาพอเหมาะพอดี
ยังมีการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายอย่างอื่นอีกที่มากับวัยแรกรุ่น
เด็กวัยรุ่นชาย:
อวัยวะเพศใหญ่ขึ้น
เริ่มมีขนรักแร้ หนวดเครา และขนตามตัว
เสียงแตก
องคชาตแข็งตัวโดยไม่มีสิ่งเร้า และมีน้ำอสุจิหลั่งออกมาตอนกลางคืน
เด็กวัยรุ่นหญิง:
เริ่มมีหน้าอก
มีขนรักแร้ และมีขนตามตัว
เริ่มมีประจำเดือน
เด็กวัยรุ่นทั้งผู้ชายและผู้หญิง
มีกลิ่นตัว เกิดจากเหงื่อมาเจอกับแบคทีเรีย
ลองวิธีนี้: อาบน้ำบ่อย ๆ และใช้ยากำจัดกลิ่นหรือยาระงับเหงื่อ คุณก็จะควบคุมกลิ่นตัวได้
สิว เกิดจากแบคทีเรียที่อยู่ในต่อมไขมัน
ลองวิธีนี้: แม้ไม่ง่ายที่จะควบคุมสิว แต่การล้างหน้าบ่อย ๆ และใช้น้ำยาทำความสะอาดผิวก็จะช่วยได้
การเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์
ฮอร์โมนที่เพิ่มสูงขึ้นในวัยแรกรุ่น นอกจากจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายแล้ว ยังมีผลต่ออารมณ์ด้วย มันอาจทำให้คุณมีอารมณ์แปรปรวน
“วันหนึ่งคุณร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวร แต่อีกวันหนึ่งกลับยิ้มได้ทั้งวัน บางทีกำลังโกรธอยู่ แต่ปุ๊บปั๊บก็เปลี่ยนเป็นหดหู่ แล้วก็อยากเก็บตัวอยู่แต่ในห้อง”—ออคซาน่า
เมื่อเข้าสู่วัยรุ่น หนุ่มสาวหลายคนรู้สึกกังวลมากกับตัวเอง เหมือนมีคนคอยจ้องมองและวิพากษ์วิจารณ์เขาอยู่ตลอดเวลา และการรู้ว่าร่างกายคุณยังต้องเปลี่ยนแปลงอีก ก็ยิ่งทำให้คุณรู้สึกแย่ลง ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นเลย
“พอฉันเริ่มตัวโตขึ้น ฉันจงใจเดินไหล่ห่อ ๆ กับใส่เสื้อตัวโคร่ง ๆ แม้จะรู้ว่าทำไมร่างกายกำลังเปลี่ยนแปลง แต่ฉันก็ไม่สบายใจ รู้สึกอาย และไม่เป็นตัวของตัวเองเลย”—แจนิส
บางทีการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงมากที่สุดที่คุณจะต้องเจอก็คือ ความรู้สึกที่มีต่อเพศตรงข้ามเปลี่ยนไป
“ฉันเลิกคิดว่าเด็กผู้ชายน่ารำคาญไปหมด ที่จริงบางคนก็หล่อดีนะ ส่วนเรื่องความรักก็ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่เคยคิด เราชอบคุยกันด้วยซ้ำว่า ‘ใครชอบใคร’”—อะเล็กซิส
เมื่อเริ่มเข้าสู่วัยรุ่น เด็กหนุ่มบางคนอาจชอบเพศเดียวกัน ถ้าคุณรู้สึกอย่างนี้ก็อย่าเพิ่งคิดว่าคุณเป็นเกย์ บ่อยครั้ง เมื่อเวลาผ่านไป ความรู้สึกอย่างนี้จะลดน้อยลง
“ผมชอบเปรียบตัวเองกับเด็กผู้ชายคนอื่น ๆ เลยทำให้ผมเริ่มชอบเด็กผู้ชายด้วยกัน แต่ต่อมา ผมก็เริ่มชอบผู้หญิง ความรู้สึกชอบเพศเดียวกันมันเป็นอดีตไปแล้ว”—อลัน
สิ่งที่คุณทำได้
พยายามมองในแง่บวก คุณต้องผ่านช่วงเวลาที่มีการเปลี่ยนแปลงนี้ทั้งทางร่างกายและทางอารมณ์เพื่อจะได้เป็นผู้ใหญ่ ดังนั้น ขอให้มั่นใจเหมือนดาวิดที่เขียนในหนังสือสดุดีว่า “ผมถูกสร้างอย่างน่าอัศจรรย์และน่าเกรงขาม”—สดุดี 139:14
พยายามไม่เปรียบเทียบ และไม่เป็นห่วงภาพลักษณ์ของตัวเองจนเกินไป คัมภีร์ไบเบิลบอกว่า “มนุษย์มองที่รูปร่างหน้าตาภายนอก แต่พระยะโฮวามองที่หัวใจ”—1 ซามูเอล 16:7
ออกกำลังกายและพักผ่อนให้เพียงพอ การนอนหลับให้พอจะช่วยให้ไม่หงุดหงิดง่าย ไม่เครียดง่าย และไม่รู้สึกหดหู่ใจ
เลิกตำหนิตัวเอง แต่ให้ถามตัวเองว่า “ใคร ๆ กำลังจับตามองและวิพากษ์วิจารณ์ฉันจริง ๆ ไหม?” ถึงแม้จะมีคนวิจารณ์เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ในตัวคุณ แต่นั่นก็เป็นความคิดเห็นของเขา คัมภีร์ไบเบิลบอกว่า “อย่าใส่ใจทุกคำที่คนอื่นพูด”—ปัญญาจารย์ 7:21
หัดควบคุมแรงกระตุ้นทางเพศ ไม่ปล่อยให้ตัวเองทำตามแรงกระตุ้นนั้น คัมภีร์ไบเบิลบอกว่า “หนีให้ไกลจากการผิดศีลธรรมทางเพศ . . . คนที่ทำผิดศีลธรรมทางเพศก็ทำบาปต่อร่างกายของตัวเอง”—1 โครินธ์ 6:18
พูดกับพ่อหรือแม่ หรือผู้ใหญ่ที่ไว้ใจได้ ตอนแรกคุณอาจรู้สึกลำบากใจ แต่ความช่วยเหลือที่คุณได้รับจะคุ้มค่ากับความพยายามของคุณ—สุภาษิต 17:17
สิ่งสำคัญคือ ถึงคุณจะเจอข้อท้าทายหลายอย่างเมื่อเริ่มเข้าสู่วัยรุ่น แต่ก็ทำให้คุณได้เติบโต ไม่ใช่เฉพาะทางกายเท่านั้น แต่ทางสติปัญญา ทางอารมณ์ และด้านความเชื่อทางศาสนาด้วย—1 ซามูเอล 2:26